คำเตือน
อย่าใช้กระเป๋าข้างที่มีน้ำหนักมากเกินไป ใส่น้ำหนักเท่ากันในแต่ละถุง น้ำหนักในกระเป๋าข้างที่มากเกินไปอาจทำให้สูญเสียการควบคุมและอาจส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสได้ (00383a)
หมายเหตุ
ความจุน้ำหนักบรรทุกสัมภาระสูงสุดคือ 6.8 kg (15 lb) ในกระเป๋าห้อยท้ายแต่ละใบ
ลำโพงติดกระเป๋า
กระเป๋าข้างรถและลำโพงได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำซึมเข้า และเพื่อให้สามารถระบายน้ำออกได้ในระหว่างล้างทำความสะอาด หรือเมื่อขับขี่ในทุกสภาพอากาศ หากต้องการระบายน้ำที่คั่งค้างอยู่ออกจากลำโพง ให้เปิดกระเป๋าข้างรถและค่อยๆ เขย่าให้น้ำไหลออกจากลำโพง
การล็อค
กุญแจ:
ดูที่
รูปภาพ 1
. สอดกุญแจเข้า หมุนกุญแจหนึ่งในสี่รอบไปทางด้านหน้าของยานพาหนะ บิดกุญแจกลับไปยังตำแหน่งกลาง เพื่อดึงกุญแจออก
สวิตช์ล็อคแหล่งจ่ายไฟ:
ดูที่
ส่วน การทำงานของ → ตัวล็อคกำลังไฟ → สวิตช์ล็อกแหล่งจ่ายไฟ
. ในขณะที่เดินเครื่องยานพาหนะอยู่ ให้กดสวิตช์ล็อคแหล่งจ่ายไฟเข้าในแผงฝาครอบแฟริ่ง สัญญาณหมุนกะพริบสองครั้ง เพื่อแสดงว่ามีการล็อคยานพาหนะแล้ว
พวงกุญแจ:
ดูที่
ส่วน การทำงานของ → ตัวล็อคกำลังไฟ → พวงกุญแจ
. กดปุ่มล็อคบนพวงกุญแจ สัญญาณหมุนกะพริบสองครั้ง เพื่อแสดงว่ามีการล็อคยานพาหนะแล้ว
การปลดล็อก
กุญแจ:
ดูที่
รูปภาพ 1
. สอดกุญแจเข้า หมุนกุญแจหนึ่งในสี่รอบไปทางด้านหลังของยานพาหนะ บิดกุญแจกลับไปยังตำแหน่งกลาง เพื่อดึงกุญแจออก
สวิตช์ล็อคแหล่งจ่ายไฟ:
ดูที่
ส่วน การทำงานของ → ตัวล็อคกำลังไฟ → สวิตช์ล็อกแหล่งจ่ายไฟ
. ในขณะที่เดินเครื่องยานพาหนะอยู่ ให้กดสวิตช์ปลดล็อคแหล่งจ่ายไฟเข้าในแผงฝาครอบแฟริ่ง สัญญาณหมุนกะพริบหนึ่งครั้ง เพื่อแสดงว่ามีการปลดล็อคยานพาหนะแล้ว
พวงกุญแจ:
ดูที่
ส่วน การทำงานของ → ตัวล็อคกำลังไฟ → พวงกุญแจ
. กดปุ่มปลดล็อคบนพวงกุญแจ สัญญาณหมุนกะพริบหนึ่งครั้ง เพื่อแสดงว่ามีการปลดล็อคยานพาหนะแล้ว
การเปิด
ดู
รูปภาพ 1
ปลดล็อคกระเป๋าข้างรถ
ยกคานกระเป๋าห้อยท้าย
ยกฝาปิดจากด้านในของกระเป๋าข้างรถ
การปิด
ดู
รูปภาพ 1
ปิดฝาปิดกระเป๋าห้อยท้าย
ดันคานลงเพื่อให้ติดกับสลัก ตรวจสอบว่าฝาปิดแน่นหนา
ล็อกกระเป๋าข้าง
การถอดออก
ดู
รูปภาพ 1
เปิดกระเป๋าห้อยท้าย
ดู
รูปภาพ 2
หมุนสลักเกลียวสกรูทวนเข็มนาฬิกาเพื่อถอดสกรูที่ยึดออกจากแบร็คเก็ตหนุน
รองรับกระเป๋าข้างรถไว้ และตัดการเชื่อมต่อขั้วต่อระบบเสียง
กระเป๋าข้างรถด้านขวา:
ดูที่
รูปภาพ 3
. ดึงแถบล็อคออก แยกขั้วต่อออก
กระเป๋าข้างรถด้านซ้าย:
ดูที่
รูปภาพ 4
. ดึงแถบล็อคออก แยกขั้วต่อออก
ยกกระเป๋าห้อยท้ายจากรางกระเป๋าห้อยท้าย
หมายเหตุ
ห้ามลากหรือไถกระเป๋าห้อยท้ายบนพื้น การดูแลอย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้กระเป๋าข้างรถเกิดความเสียหายได้
กำลังติดตั้ง
ดู
รูปภาพ 1
วางกระเป๋าห้อยท้ายอย่างระมัดระวังบนรางกระเป๋าห้อยท้าย จัดเรียงแหวนยางยึดกับแบร็คเก็ตหนุน
รองรับกระเป๋าข้างรถไว้ เชื่อมต่อขั้วต่อระบบเสียง
กระเป๋าข้างรถด้านขวา:
ดูที่
รูปภาพ 3
. ติดตัวเชื่อมต่อ ล็อคแถบล็อคเข้า
กระเป๋าข้างรถด้านซ้าย:
ดูที่
รูปภาพ 4
. ติดตัวเชื่อมต่อ ล็อคแถบล็อคเข้า
หมายเหตุ
คานสกรูยึดด้านหลังจะรบกวนฝาปิดกระเป๋าข้างรถยกเว้นอยู่ในตำแหน่งที่มีคานชี้ลง
ดู
รูปภาพ 2
ติดตั้งสกรูยึดผ่านแหวนยางในแบร็คเก็ตหนุน หมุนสลักเกลียวตามเข็มนาฬิกาให้ขันสกรูยึดให้แน่นเพื่อให้สลักชี้ลงระหว่างตำแหน่ง 3 นาฬิกาถึง 9 นาฬิกาตามที่แสดง
ติดตั้งสกรูติดตั้งผ่่านวงแหวนเข้าในแป้นยึด ขันเข้าให้แน่น จนคันโยกชี้ลงด้านล่างระหว่างตำแหน่งที่ 3 นาฬิกา และ 9 นาฬิกา ตามที่แสดงไว้
ตรวจสอบว่า มีการยึดกระเป๋าข้างรถไว้อย่างดีแล้ว
ปิดและล็อคกระเป๋าห้อยท้าย
View interactive image
1
ล็อคกระเป๋าข้างรถ
2
ตำแหน่งปลดล็อค (ไปทางด้านหลัง)
3
ตำแหน่งล็อค (ไปทางด้านหน้า)
4
คันโยก
รูปภาพ 1 กระเป๋าข้างรถ
View interactive image
1
สกรูยึดด้วยก้าน
2
รางกระเป๋าห้อยท้าย
3
แท่นรองหนุน
รูปภาพ 2 การติดตั้ง/การถอดกระเป่าข้างรถ
View interactive image
รูปภาพ 3 แถบล็อคขั้วต่อด้านขวา
View interactive image
รูปภาพ 4 แถบล็อคขั้วต่อด้านซ้าย